ป.ป.ช.เอาจริง!! ประกาศกร้าวเอาผิดตำรวจ ไม่สั่งฟ้อง”บอส ทายาทกระทิงแดง” ผิดโทษวินัยร้ายแรง ย้ำหนัก!!จะไม่ปล่อยให้หมดอายุเด็ดขาด!!
ความคืบหน้าในคดีที่ นายวรยุทธ อยู่วิทยาหรือบอส ทายาทนักธุรกิจเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต หลังสื่อมวลชนต่างประเทศ ตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยปล่อยคดีให้ยืดเยื้อจนคดีใกล้หมดอายุความในปีนี้นั้น
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีมีผู้กล่าวหาพล.ต.ต.กฤษฏิ์เปียแก้ว อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กับพวกกระทำความผิดทุจริตต่อหน้าที่ กรณีไม่นำตัวนายวรยุทธ สั่งฟ้องข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นเหตุให้คดีขาดอายุความว่า ตนขอสอบถามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่เจ้าของเรื่องก่อน
ทั้งนี้เชื่อว่าในกระบวนการยุติธรรมและการทำงานของเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. เรื่องอายุความของคดีเป็นเรื่องสำคัญสุด จะไม่ปล่อยให้คดีขาดอายุความเราตระหนักเรื่องนี้ดี ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมไม่ได้ ต้องมีเหตุผลที่จะตอบกับสังคมและเจ้าหน้าที่เองหากคดีนั้นๆ ขาดอายุความเขาเองต้องตอบสังคมให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะโดนลงโทษฐานบกพร่องในหน้าที่ ซึ่งมีโทษขั้นรุนแรง อย่างเมื่อก่อนถ้าเป็นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โทษวินัยร้ายแรงถึงขั้นให้ออกจากราชการ โดยคดีดังกล่าวนี้ตนยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ขาดอายุความแน่นอน รวมถึงทุกๆ คดี ทุกเรื่องที่เราทำงานอยู่ เราต้องตอบสังคมให้ได้
และสำหรับความคืบหน้าคดีของนายวรยุทธนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยพนักงานอัยการได้แจ้งให้ผู้ต้องหามาพบในวันที่ 30 มี.ค. 2560 แต่นายวรยุทธได้ส่งทนายความมาขอเลื่อนพบ อ้างว่าติดภารกิจอยู่ที่ประเทศอังกฤษ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ จึงอนุญาตให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 27 เม.ย. 2560
“ขอยืนยันว่าสำนักงาน อสส. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามเร่งรัดการดำเนินคดีมาตลอด” หากนับรวมระยะเวลานับแต่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องจนถึงปัจจุบัน 1 ปีเต็ม ที่ยังไม่สามารถติดตามตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องต่อศาลได้ เนื่องจากนายวรยุทธขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานอัยการ รวมแล้วถึง 6 ครั้ง
ท้ายที่สุดก็ต้องติดตามกับต่อไปว่าเจ้าหน้าที่ตำรจ ร่วมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถเอาผิดกับนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทนักธุรกิจเครื่องดื่มกระทิงแดง หนึ่งในหลายคดี”คดีลูกคนรวย” ได้หรือไม่ เพราะคดีจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายนปีนี้ ส่วนข้อหาขับรถโดยประมาท จะหมดอายุความในปี 2570..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น