“น้าเดช” โพสต์เตือนนายกฯ จับคนนั่งแคปกระบะช่วงสงกรานต์-จลาจลทั้งประเทศแน่!




จากกรณีมาตราการบังคับคาดเข็มขัดนิรภัยและการห้ามประชาชนนั่งท้ายกระบะและแคปกระบะจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ว่าอาจกระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนนั้น ล่าสุด พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กูรูด้านรถยนต์ ออกมาโพสต์ถึงนายกรัฐมนตรี วอนทบทวนมาตรการดังกล่าว โดยนายพัฒนเดช โพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่า

ท่านนายกครับ เรื่องเข็มขัดนิรภัยนั้นน่ะ ท่านโปรดฟังผมสักนิดเถอะครับ ให้ผู้ประกอบการเป็นผู้มีหน้าที่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่งที่นั่ง แล้วใช้กฏหมายเดิมที่มีอยู่ คือ “บังคับ” คนขับและคนนั่งตอนหน้า ส่วนตำแหน่งอื่นๆนั้น “ผู้ใดต้องการใช้ก็มีเข็มขัดเตรียมไว้ให้” ผู้ใดสมัครใจตายก็ไม่ต้องใช้ช่างหัวมัน

ท่านลองเทียบเคียงกับเครื่องบินนะครับ ก่อนเครื่องบินขึ้น เขาบังคับให้ทุกคนต้องคาดเข็มขัด แต่เมื่อเครื่องบินขึ้นแล้ว เขาไม่บังคับ “แต่มีคำแนะนำว่าควรคาดเข็มขัดตลอดเวลาที่นั่งอยู่ เพื่อความปลอดภัย”

ท่านจะเชื่อผมก็ได้ จะเชื่อคนรอบตัวท่านก็ได้ ประเทศนี้มีรถปิ๊คอัพวิ่งอยู่เกินครึ่งหนึ่งของรถทั้งหมดนะครับ สงกรานต์นี้ถ้าตำรวจทำหน้าที่เถรตรง คงจลาจลทั้งประเทศแน่ แล้วรถแห่พระพุทธรูปมาให้คนสรงน้ำ ที่เอาพระตั้งบนกระบะมีคนนั่งประคอง ทั้งคนประคองและพระพุทธรูปจะต้องโดนจับด้วยไหมครับ อย่าไปเทียบเคียงประเทศอื่นเลย ลักษณะการใช้รถและวิถีชีวิตมันต่างกันมาก ถ้าบังคับใช้จริงๆ สงกรานต์นี้จะมีรถทัวร์ รถโดยสารออกวิ่งพอรับส่งคนหรือไม่ครับลองนึกดูนะครับ
เชื่อผมก็ได้ ไม่เชื่อผมก็ได้ ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใคร ผมมีรถที่อยู่ในข่ายพอสำหรับครอบครัว มีจำนวนคันมากพอสำหรับเดินทางด้วยเช่นกัน ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมห่วงท่านมากกว่าครับ…….ไปละ วันนี้เหนื่อยมากพอแล้วครับ

 ผมไม่อยากจะบอกกับท่านว่า ไอ้เข็มขัดแบบ “สองจุด” นั้นน่ะ “คาดก็พิการ ไม่คาดก็ตาย” ไม่ต้องไปบังคับหรอกครับ ถ้าจะเอากันจริงๆก็ต้องพูดกันถึงสามจุดแล้วครับ


ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ไม่ใช่แค่ห้ามนั่งกระบะนะรู้ยัง?? นั่งในแคปก็ไม่ได้ ผิดกฎหมายจับปรับหัวโตกันไป พล.ต.ท.วิทยา แจง แคปมันมีไว้บรรทุกของ ไม่ได้มีไว้นั่ง โอ้วพระเจ้า!!!(มีคลิป)

รูปภาพ
      กลายเป็นกระเเสวิพากวิจารณ์อย่างมากเกี่ยวกับการออกกฎหมายต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกราน เกี่ยวการใช้รถกระบะในการขับขี่สัญจรต่างๆ โดยใช้ ม.44 ในการบังคับในครั้งนี้ ซึ่งกฎหมายที่บางคนอาจมองว่าถูกต้องเเละควรเป็นเช่นนั้น เเต่ถ้ามองกลับมาในด้านการใช้ชีวิตของประชาชนบางกลุ่มที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เเละทำจริงๆเเต่ก็ต้องถูกสั่งห้ามเพราะกฎหมายไม่ให้ทำเช่นนั้น กฎหมายนั้นคือ สั่งห้ามนั่งท้ายกระบะ เด็ดขาด โดยทางด้าน คสช. ได้ออกมาบอกว่า ท้ายกระบะนั้นเป็นที่บรรทุกสิ่งของเพียงอย่างเดียวไม่ให้มีผู้ใดนั่งตรงนั้นเพื่อเป็นการเดินทางโดยเด็ดขาด เเละที่นั่งข้างในรถนั้นต้องเป็นที่นั่งที่มีที่คาดเข็มขัดเท่านั้นไม่ให้มีผู้ใดไปนั้งเบียดเสียดกันเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ เเล้วเเบบนี้ชาวบ้านที่มีอาชีพที่ต้องใช้รถกระบะในการบนนทุกเเรงงานละจะไม่ลำบากหรอ?       โดยทางด้าน พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ได้ออกมาชี้เเจงถึงข้อกฎหมายที่ว่า ห้ามนั่งท้ายกระบะ เด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า 1. กระบะด้านหลังไม่มีที่นั่งอยู่เเล้ว 2. ไม่มีที่คาดเข็มขัดนิรภัย เเละให้มองย้อนในการเกิดอุบั...
อ่านต่อ

เปิดชีวิต "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" ผู้สั่นสะเทือนวงการสีกากี ตำรวจที่มากบารมีกว่า "ผบ.ตร.-รองผบ.ตร. (มีคลิป)

รูปภาพ
         ชั่วโมงนี้ชื่อของ "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ฮอตที่สุดในวงการสีกากีแล้ว ท่ามกลางข่าวลือสะพัดเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่ง รู้กันทั้งบางว่า "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์"  สนิทสนมเป็นตำรวจมือขวาของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยครั้งหนึ่ง  "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์"  ติดสอยห้อยท้ายเดินแนบข้าง "บิ๊กป้อม" เข้าช่วยงานกระทรวงกลาโหมบ่อยครั้ง  "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์"  เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา รุ่น 87 ถือเป็นรุ่นน้อง "วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี "บวรศักดิ์ อุวรรณโณ" อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คอนเนคชั่นจึงไม่ธรรมดาเข้าไปอีก        เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" เพิ่งได้รับมอบโล่ห์เกียรติยศนักเรียนเก่าแห่งความภาคภูมิใจของโรงเรียนมหาวชิราวุธ พร้อมพบปะสังสรรค์กับบรรดาเพื่อนร่วมรุ่น ซึ่งถือว่า "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" โดดเด่นที่สุดในรุ่น          ...
อ่านต่อ

เปิดชีวิตสุดหรู !!“เปรี้ยว”มือฆ่าหั่นศพ?? ก่อนลงมือฆ่า..เคยมีชีวิตสุดเลิศหรู!! โชว์เงินเป็นกองๆหลายแสน ชาวเน็ตตั้งคำถามไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหน??

รูปภาพ
          จากกรณี คดีฆ่าหั่นศพนางสาววริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี พนักงานต้อนรับคาราโอเกะ “คลีโอพัตรา” ล่าสุดรายงานอย่างไม่เป็นทางการแจ้งว่า ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ควบคุมตัวนางสาวปรียานุช โนนวังชัย อายุ 24 ปี ชาวอำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น และนางสาวกวิตา ราชดา อายุ 26 ปี ได้ที่เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า อยู่ระหว่างประสานนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติมที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (บก.สส.ภ.4)                   ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนถูกตำรวจขอศาลออกหมายจับตามหมายจับ 4 ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ หลังร่วมกันก่อเหตุฆ่า นางสาววริศรา กลิ่นจุ้ย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำเอกสารส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อเตรียมนำตัวกลับมาดำเนินคดี             จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทำให้ชาวเน็ตหรือโซเชี่ยลนั้นต่างทำงานขุดคุ้ย ชีวิตของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน บนเฟซบุ๊คของแต่ละคน โดยคนที่น่าสนใจที่สุดคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่ชื่อ เปรี้ย...
อ่านต่อ

แข่งกันกินขี้!!! ใครกินได้เยอะสุดคนนั้นชนะ คิดได้ไงเอาสมองส่วนไหนคิด (มีคลิป)

รูปภาพ
คลิปแข่งกันกินอุจจาระ โดยมีผู้หญิงเป็นอาสาสมัครหลายคน ใครกินได้เยอะสุดคนนั้นเป็นผู้ชนะ คิดได้ไง ? !!!
อ่านต่อ

“บวช 9 วันรักษาทุกโรค” ไม่คิดค่ารักษา ไม่ว่าท่านจะเป็นโรคอะไรก็ตาม มะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ตับ ไต ฯลฯ เยียวยา รักษา โรคภัย ให้แก่ทุกท่านด้วยหลักธรรมโอสถตามแนวทางของพระพุทธเจ้า

รูปภาพ
วัดตรีวิสุทธิธรรม พระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์(หลวงพ่อไก่) อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โอวาทธรรมจากพระอาจารย์ใหญ่ ในเรื่องการรักษาโรค “ ถ้าผู้ป่วยเขาเข้าร่วมกิจกรรมสวดอิติปิโส 108 ทุกคืน กำลังจิตของเขาเอง  1 ส่วน  กำลังของสถานที่ 1ส่วน  กำลังของเราผู้รักษาอีก 1 ส่วน โรคภัยมันก็จะจางเบาลงได้ .. นี่เป็นระบบของพวกเราที่ได้มาตรฐาน..”     พระอาจารย์ใหญ่ท่านเมตตารักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับประชาชนทั่วไป ทั้งสมณะ ชีพราหมณ์ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะและไม่คิดค่ารักษา โดยท่านใช้หลักธรรมโอสถ มีเงื่อนไขเบื้องต้นเป็นสโลแกนส่วนองค์ว่า   “บวช 9 วันรักษาทุกโรค” หมายถึงไม่ว่าท่านจะเป็นโรคอะไรก็ตาม ทั้งโรคปัจจุบัน เช่นมะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ตับ ไต ฯลฯ หรือโรคจากกรรมเวรในอดีต (โรคที่หมอยังวินิจฉัยไม่ได้ หรือโรคที่ทำให้มีอาการป่วยแปลกๆ ที่ไม่ทราบสาเหตุ) อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการสร้างกรรมทำบาปมาในอดีต เช่นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การผิดศีล การทำแท้ง ตลอดจนการถูกกระทำจากคุณไสย ลมเพลมพัด ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรมาก็ตาม ทางวัดไตรรงค์วิสุทธิธรรม(วัดป่าสระกระโจม) นำโดยพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ...
อ่านต่อ

หอยกระจู๋ เมนูโปรดของคนทั่วโลก ลองหน่อยไหม !?!(มีคลิป)

รูปภาพ
หอยกระจู๋เป็นหอยสองฝาที่พบได้ตามชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาและแคนาดา ความใหญ่ของหอยขึ้นอยู่กับอายุของมัน ถ้าเราเอาเปลือกหอยออก เราจะเจอเหมือนไข่สองใบอยู่ข้างใน แต่สว่นนั้นกินไม่ได้ หอยนี้จะฝังตัวอยู่ในทรายลึก และโผล่แต่ปากออกมาหากินนิดหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญ หรือพระเจ้าสร้างมันมากันแน่ แต่ที่แน่ๆมันเหมือนของผู้ชาย บางตัวก็ขาว บางตัวก็คล้ำ แปลกมาก ด้านบนสุดจะมีสองรู รูหนึ่งเอาไว้ดูดเพลงตอนเข้าไป และอีกรูหนึ่งเอาไว้ขับของเสียออกมา เมนูโปรดของคนทั่วโลกเกี่ยวกับเจ้าหอยนี้คือซาชิมิ หรือก็คือการทานดิบกับซอสถั่วเหลืองและวาซาบินั่นเอง.........แปลกกว่านี้มีอีกไหม??
อ่านต่อ

โซเชี่ยลแห่ชื่นชม แท็กซี่รับหญิงสาวเมาไม่ได้สติ ให้อ้วกข้างถนน ถอดกางเกงฉี่แล้วหลับไม่ได้สติ นอนไม่ใส่กางเกงริมถนน ไม่ทำอะไรแถมโทรแจ้งตำรวจ(มีคลิป)

รูปภาพ
        เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมือง จังหวัด ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีหญิงสาวเมาไม่ได้สตินอนอยู่ริมถนน จึงเตรียมกำลังเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ หญิงสาวรายหนึ่งมีลักษณะเมาไม่ได้สติ ถอดกางเกงนอนอยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่จึงนำผ้าคลุมมาปกปิดให้ ใกล้กันยังพบถุงกระสอบปุ๋ย ภายในมีปลาสวายจำนวน 1 ตัว จากการสอบถาม นายณฐพล มีสัตย์ ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุหญิงสาวรายนี้ได้โบกรถ โดยมีหญิงวัยกลางคนโบกเรียกให้ ระหว่างทางหญิงคนดังกล่าวได้อาเจียนบนรถแท็กซี่ ตนจึงจอดให้อาเจียนข้างทางและฉี่ จากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็นอนหลับไปไม่ได้สติ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานให้ญาติมารับบต่อไป
อ่านต่อ

สุดสะเทือนใจ! พบทารกในตะกร้าวางข้างรั้วโรงเรียน ทิ้งจดหมายว่า “แม่ขอโทษ รักลูก แต่ดูแลลูกไม่ได้”

รูปภาพ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 มี.ค. ตำรวจสภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเด็กทารกแรกเกิด ถูกนำมาทิ้งบริเวณหลังกำแพงโรงเรียนกระสังพิทยาคม ม.9 ต.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยและแพทย์โรงพยาบาลกระสัง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเด็กทารกแรกเกิดเพศชาย ถูกทิ้งใส่ไว้ในตะกร้าสีชมพู ตรวจสอบแล้วน่าจะเพิ่งคลอดไม่นาน เนื่องจากยังมีสายรกติดที่ตัวเด็กอยู่ และบรรจุสายรกไว้ในถุงพลาสติกห่อไว้รวมกันในตะกร้า ภายในกระเป๋ายังพบจดหมายของแม่ของทารกเขียนไว้ว่า “ถึงท็อปเท็นลูกรัก แม่รักลูกแต่ดูแลลูกไม่ได้ แม่ขอโทษ” จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเด็กไปที่โรงพยาบาลกระสัง เพื่อตรวจสอบอาการทั่วไปเบื้องต้น ล่าสุดขณะนี้เด็กอยู่ในความดูแลของแพทย์และปลอดภัยแล้ว
อ่านต่อ

เปิดใจคนเป็นเมีย(หลวง)ในคลิปบุกตบกิ๊กคาม่านรูด ย้ำบอกให้เลิกสันดานเลวแต่..ไม่หยุด(มีคลิป) ทนายดังชี้ช่องฟ้องศาลให้เข็ด????

รูปภาพ
          จากกรณีที่มีการแชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่ง บุกตบสาวอีกคนในโรงแรมม่านรูด โดยในโรงแรมนั้นมีชายคนหนึ่งอยู่ด้วย กลายเป็นคลิปว่อนโซเชียลอยู่ในขณะนี้          ล่าสุด  รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สัมภาษณ์คุณอิ๋ว เจ้าของคลิปและเป็นหญิงสาวคนที่บุกตบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตนนั้นทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ตราด แต่งงานมีครอบครัว มีลูก 1 คน ส่วนสามีเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังจับได้ว่าสามีมีกิ๊ก เคยเตือนให้หยุดก็ไม่หยุด ด้านกิ๊กสาวก็ไม่ลดละแต่อย่างใด        ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ สามีอ้างว่าจะไปทำงาน แต่รู้ทีหลังว่าพากิ๊กสาวเข้าโรงแรมม่านรูด จึงตามไปจัดการจนเกิดเหตุการณ์ในคลิป หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ ตนก็อยากให้ทั้งคู่ติดต่อกลับมา อยากให้สามีมาเคลียร์หนี้ และหย่าขาด ทางกิ๊กสาวตนก็จะฟ้อง เพราะฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้ว         ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด เปิดเผยว่า เรื่องนี้ภรรยาสามารถดำเน...
อ่านต่อ

ชูวิทแฉ ปมฆ่าหั่นศพ ไม่ใช่บัลดาลโทษะ เกี่ยวพันธ์กลุ่มยาเสพติด บ่อนการพนัน เชือดคนปากโป้ง (มีคลิป) "เปรี้ยว-เอิร์น" หนีกบดานกลุ่ม "ว้าแดง"ชารายาเสพติด

รูปภาพ
      ยิ่งฟังยิ่งขนลุก! เฮีย #ชูวิทย์ เล่าเรื่องที่ไม่มีในข่าว ปมฆ่าหั่นศพ 'น้องแอ๋ม’ นอกจากเรื่องยาเสพติดแล้ว มันยังมีอะไรที่มากกว่านั้น งานนี้มีเรื่อง "บ่อนการพนัน” มาเอี่ยวด้วย บอกเป็นการประกาศศักดาให้รู้ว่า...อย่าปากโป้ง!!                  หลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้แยกย้ายกันหลบหนีไป โดย น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา ได้หลบหนีไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะชื่อดังที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ส่วน น.ส.จิดารัตน์หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี คาดว่าอีกไม่นานคงจะหนีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ลาวก็กัมพูชา          ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา ทั้งคู่หายตัวไปแล้ว คาดว่าคงจะหลบหนีอยู่ในประเทศเมียนมา และเจ้าหน้าที่ของไทยกำลังประสานงานกับทางการประเทศเมียนมาในการตามจับกุมทั้งสองคนแล้ว               แต่ท้ายที่สุดขณะนี้ทั้งคู่นั้นหลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว โดนมีกลุ่มว้าแดงมารับตัวไป ซึ่งข่าวดังกล่าวนั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Ja...
อ่านต่อ